ข่าวเรื่องการทำร้ายตนเอง-ฆ่าตัวตาย
มีความชุกเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเดือน มกราคม 2559 นี้
จะด้วยสาเหตุใดๆ ที่กล่าวไว้ในบทความนี้ก็ตาม
เพียงแต่ว่าหากทุกท่านได้เข้ารับการรักษาในระยะเริ่มแรกแล้ว
ท่านเหล่านั้นก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุขอีกนานแสนนาน สร้างคุณค่าของชีวิตให้กับตนเอง
ครอบครัว และสังคมแวดล้อมได้อีกมากมายทำไม..เหตุใด..จะต้องเข้ารับการรักษาเพราะท่านเหล่านั้นเป็นผู้ป่วยในกลุ่ม
"โรคซึมเศร้า"
องค์การอนามัยโลกวิเคราะห์ว่าในปี
2563
โรคซึมเศร้าจะทำให้เกิดการสูญเสียด้านสุขภาพแก่คนทั่วโลกสูงเป็นอันดับ
2 รองจากโรคหลอดเลือดหัวใจ ส่วนการศึกษาในประเทศไทยปี 2552
พบว่าโรคซึมเศร้าก่อให้เกิดความสูญเสียจากภาวะบกพร่องทางสุขภาพสูงที่สุดใน
เพศหญิงถึงร้อยละ 12.4 ซึ่งสูงกว่าโรคทางกายทุกโรคและยังมีหลักฐานทางวิชาการสนับสนุนอีกว่าผู้ป่วย
โรคซึมเศร้าเพิ่มความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายมากกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่าซึ่งในประเทศไทยพบว่า ไม่เพียงเกิดกรณีการฆ่าตัวตายเท่านั้น แต่อาจเป็นภัยกับครอบครัวและคนใกล้ชิดโดยเฉพาะบุตรดังที่เคยเป็นข่าวอยู่
บ่อยๆ และในการศึกษาผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จพบว่า ร้อยละ 90 มีปัญหาสุขภาพจิตอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะกระทำการและส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคซึม
เศร้านั่นเองครับ
อะไรเป็นสาเหตุให้เกิดโรคซึมเศร้า
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้ามี
3
ปัจจัยหลักที่สำคัญคือ
1.
ปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ซึ่งเป็นผลจากการผิดปกติของยีน (Gene)
2.
ปัจจัยด้านจิตใจ
3.
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
โดยส่วนใหญ่มักพบร่วมกันโดยมีปัจจัยกระตุ้น
เช่นการสูญเสียเป็นตัวนำไปสู่ความไม่สมดุลของการทำงานของสารสื่อประสาทใน สมอง
ทำให้เกิดการเจ็บป่วยในที่สุด ซึ่งสารสื่อประสาทที่ว่านี้คือ ซีโรโทนิน (Serotonin)ที่มีค่าต่ำกว่าปกติ
โรคซึมเศร้ามีจริงๆ
หรือเป็นแค่อารมณ์เศร้าธรรมดาๆ ที่ใครๆ ก็เป็น
คนทั่วไปสามารถเกิดอารมณ์หรือภาวะซึมเศร้าได้เมื่อมี
ปัจจัยมากระตุ้น เช่น ความเครียด แต่อาการจะไม่รุนแรงและหายไปได้เอง แต่ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านั้นจะส่งผลไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีใน
สมอง ดังนั้นอาการจะรุนแรงและก่อให้เกิดปัญหาการดำเนินชีวิตมากกว่าอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นโรคซึมเศร้าจึง
ไม่ใช่เพียงภาวะจิตใจที่อ่อนแอหรือไม่สู้ปัญหาเท่านั้น แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นแล้วมีผลต่อสมอง
ซึ่งเป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกายเช่นเดียวกับโรคในร่างกายของเราอื่นๆ เช่น เบาหวาน
ความดัน นั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น
หากครอบครัวสูญเสียคนในครอบครัวอันเป็นที่รัก บุคคลธรรมดาที่ไม่ป่วยก็จะเศร้าโศกอยู่
2-3
อาทิตย์ หรือ 1-2 เดือนเป็นอย่างมาก แต่ผู้ที่มีความผิดปกติของยีนส์สมองและสื่อประสาทเข้าสู่โรคซึมเศร้า
จะแสดงออกโดยเศร้าซึมจนผิดสังเกต แยกตัว พฤติกรรมต่างๆ ที่เคยทำตามปกติเสียไป
และอาจมีแนวโน้มฆ่าตัวตายตาม เป็นต้น ดังนั้นญาติสนิทใกล้ชิดต้องสังเกตอาการและชี้ชวนให้พบแพทย์เพื่อรีบรักษา
เป็นความ
จริงอีกประการหนึ่งคือ ผู้ที่มียีนส์ไม่สมบูรณ์มีแนวโน้มเข้าสู่อาการซึมเศร้าได้ง่ายแต่ก็
ไม่จำเป็น เน้นว่าไม่จำเป็น จะต้องเป็นโรคซึมเศร้าทุกรายไปครับ ถ้าครอบครัวดี
เพื่อนดี สิ่งแวดล้อมดี ก็ชวนพากันดำเนินชีวิตไปตามปกติได้
ขอขอบคุณที่มา:
สสส.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น